เพราะ
ขั้นแรกควรตรวจสอบประเภท และคุณสมบัติของผ้าม่านกันก่อนว่ าสามารถซักได้ไหม ถ้าซักได้ต้องซักแบบไหนผ้าม่านถึ งจะไม่ชำรุด โดยปกติแล้วผ้าม่านส่วนใหญ่ในปั จจุบุันจะประกอบด้วยเส้นใย polyester ซึ่งผ้าม่านชนิดนี้สามารถซักเครื องได้ แต่ในกรณีที่ไม่ทราบ หรือไม่แน่ใจว่าผ้าม่านเป็นแบบไ หน ชนิดไหน เราขอแนะนำให้ซักผ้าม่านด้วยมือ เพราะจะช่วยป้องกันไม่ไห้ผ้าม่านเสียหายได้ครับ แต่สำหรับผ้าไหมแท้แนะนำว่าให้ส่ งซักแห้งดีกว่าครับ โดยวิธีการซักมีสองแบบหลักๆ คือ
1. ซักด้วยมือ ซึ่งจะเป็นวิธีการถนอมผ้ามากที่ สุด แต่ถ้าหากมีจำนวนหลายชุดก็ต้องอ อกแรงหน่อยนะครับ * ขอแนะนำว่าผ้าโปร่งควรซักด้วยมื อนะครับ *
2. ซักด้วยเครื่องซักผ้า เมื่อตรวจสอบแล้วว่าลักษณะเนื้อ ผ้ายังคงแข็งแรงอยู่ ก็สามารถซักด้วยเครื่องได้ครับ เลือกโปรแกรมให้ตรงกับเนื้อผ้าห ากต้องการใช้โปรแกรมปั่นหมาด ควรระมัดระวังแรงเหวี่ยงจะทำให้ ผ้าม่านขาดได้ครับ
เรามาเริ่มลงมือกันเลยครับ.....
ขั้นตอนที่ 1
ใช้บันไดหรือเก้าอี้ เพื่อปีนปลดม่านจากรางม่าน โดยมากจะแขวนไว้ด้วยตะขอ จากนั้นถอดตะขอออกจากตัวม่าน เก็บตะขอไว้ในกล่องให้ดีนะครับ ไม่งั้นตอนใส่กลับมีปัญหาแน่ๆ
ขั้นตอนที่ 2
ถอดโซ่ออกจากผ้าโดยใช้คัตเตอร์เ ลาะตะเข็บที่ชายผ้า แล้วดึงโซ่ออกมา แยกและเขียนกำกับไว้ว่าของชุดไห นนะครับ ป้องกันการสับสนครับ
ขั้นตอนที่ 3
หาภาชนะขนาดใหญ่สำหรับการแช่ผ้า กะละมัง หรืออาจจะดัดแปลงเอาอ่างอาบน้ำใ ช้ในการซักก็ได้นะครับ โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอก (กะปริมาณผงซักฟอกตามปริมาณเนื้ อผ้า) หรือน้ำยาซักฟอก โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาซักฟอก ขาว จากนั้นขยำเบาๆ สำหรับเครื่องซักผ้าเลือกโปรแกร มที่เหมาะกับเนื้อผ้าหรือแบบเบา ที่สุดครับ โดยเลือกใช้น้ำอุณหภูมิปกติ
ขั้นตอนที่ 4
ล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้งจนกว่าฟองจะหมด หลังจากนั้นแช่ด้วยน้ำยาปรับผ้า นุ่ม 10-15 นาที เพื่อรักษาเนื้อผ้าและให้ผ้าม่านมีกลิ่นหอ มเหมือนใหม่ๆครับ
1. ซักด้วยมือ ซึ่งจะเป็นวิธีการถนอมผ้ามากที่
2. ซักด้วยเครื่องซักผ้า เมื่อตรวจสอบแล้วว่าลักษณะเนื้อ
เรามาเริ่มลงมือกันเลยครับ.....
ขั้นตอนที่ 1
ใช้บันไดหรือเก้าอี้ เพื่อปีนปลดม่านจากรางม่าน โดยมากจะแขวนไว้ด้วยตะขอ จากนั้นถอดตะขอออกจากตัวม่าน เก็บตะขอไว้ในกล่องให้ดีนะครับ ไม่งั้นตอนใส่กลับมีปัญหาแน่ๆ
ขั้นตอนที่ 2
ถอดโซ่ออกจากผ้าโดยใช้คัตเตอร์เ
ขั้นตอนที่ 3
หาภาชนะขนาดใหญ่สำหรับการแช่ผ้า
ขั้นตอนที่ 4
ล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้งจนกว่าฟองจะหมด หลังจากนั้นแช่ด้วยน้ำยาปรับผ้า
ขั้นตอนที่ 5
ใช้มือบิดพอหมาด หรือปั่นแห้งแบบเบาที่สุด ขึงตากแดดอ่อนหรือในร่มโดยพาดกั บราวเล็ก หลีกเลี่ยงแดดแรงนะครับ เพราะอาจทำให้ผ้ากรอบและเสียหายได้ได้
ขั้นตอนที่ 6
ใส่ตะขอม่านเข้าที่เดิมและใส่โซ่ เข้าที่ชายผ้ากลับที่เดิม ค่อยๆไล่โซ่ตามปลายผ้าไปเรื่อยๆ จนถึงปลายอีกด้าน จะทำให้ชายผ้าถ่วงอย่างสม่ำเสมอ แล้วเย็บปิดรอยที่ปลายผ้าของโซ่ ทั้งสองด้านครับ
ใช้มือบิดพอหมาด หรือปั่นแห้งแบบเบาที่สุด ขึงตากแดดอ่อนหรือในร่มโดยพาดกั
ขั้นตอนที่ 6
ใส่ตะขอม่านเข้าที่เดิมและใส่โซ่
ขั้นตอนที่ 7
ดัดแปลงโดยใช้โต๊ะทานข้าวปูด้วย
ขั้นตอนที่ 8
นำผ้าม่านแยกชุดไว้ตามห้อง แล้วแขวนกลับที่เดิม เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ แค่นี้บ้านของเราก็กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้ว
หากท่านใดต้องการคำแนะนำเพิ่มเติ มก็สามารถ โทรเข้ามาสอบถามที่ 02-612-0927
leecurtain ยินดีให้คำปรึกษากับทุกคนครับ แต่ถ้าหากต้องการความสะดวกสบาย ทาง leecurtain มีบริการรับซักผ้าม่านในราคาพิเ ศษ ใช้เวลา 3-7 วันขึ้นอยู่ปริมาณงานครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น